เคยสังเกตหรือไม่ว่า ก่อนคุณจะบิดกุญแจสตาร์ตรถจะมีไฟขึ้นที่หน้าปัด บ้างก็มีเข็มฟาดไปมา สัญลักษณ์เหล่านั้นบอกอะไรกับเราได้บ้าง มาดูกัน ...
1. เมื่อเราบิดกุญแจไปที่ on ก่อนจะบิดกุญแจสตาร์ตเครื่องยนต์ สัญญาณไฟทุกดวงจะโชว์ขึ้น หมายความว่าสัญญาณเตือนนั้นยังทำงานปกติ ทั้งวัดรอบเครื่องยนต์,
เข็มไมล์, น้ำมัน, อุณหภูมิเครื่องยนต์หรืออะไรก็ตามที่เป็นเกจ์วัดแบบเข็มที่ในรถยนต์และจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ นั้นนิยมออกแบบทำให้ฟาดขึ้นไปจนสุด
หลังจากบิดกุญแจแล้วค่อยดีดกลับลงมานั้น มีความหมายว่าเกจ์วัดนั้นยังทำงานได้ตามปกติ
2. สัญญาณไฟเบรก สาเหตุที่สัญญาณไฟเบรกจะโชว์ คือ เมื่อเราดึงเบรกมืออยู่ แต่ถ้าเราไม่ได้ใช้เบรกมือแล้วไฟเบรกโชว์ขึ้นมาก็แสดงว่าน้ำมันเบรกลดลงต่ำกว่า
ระดับที่กำหนดไว้ อาจจะต้องเช็กการรั่วซึม แต่ถ้าลดลงให้ลองตรวจสอบดูผ้าเบรกสึกหรอไปเยอะแล้วหรือไม่ ถ้าผ้าเบรกไม่บางลง น้ำมันเบรกไม่ลด
แล้วมีไฟเบรกโชว์นั่นคงต้องให้อู่ซ่อมหรือศูนย์บริการตรวจสอบ เพราะว่าระบบเบรกอาจจะมีปัญหา
3. เช็กเครื่องยนต์ (Check Engine) ขึ้น หมายความว่าเครื่องยนต์ หรือเซ็นเซอร์ของเครื่องยนต์หรือไม่ก็กล่องสมอง (ECU) อาจจะมีปัญหาควรรีบเข้าศูนย์
หรือถ้ามีสัญญาณเตือนแบตเตอรี่ ถ้าติดเครื่องยนต์แล้วไม่ดับแสดงว่าแบตเตอรี่มีปัญหา หรืออาจจะเป็นไดชาร์จไม่ชาร์จไฟไปที่แบตเตอรี่
ควรจะขับไปร้านรีบเช็กก่อนไฟจะหมด หรืออาจจะมาจากขั้วแบตเตอรี่ไม่แน่นให้ลองไปขยับดู ถ้าใช่ที่จุดนั้นไฟก็จะดับ
4. สัญญาณเกี่ยวกับไฟต่างๆ ถ้าเป็นหลอดไฟขาดในรถยุโรปจะมีสัญลักษณ์เหมือนกับในรูป ส่วนไฟเลี้ยวขาดไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือด้านหลัง
ไฟเลี้ยวบนหน้าปัดเราจะกะพริบเร็วกว่าปกติ
5. สัญญาณไฟถุงลมนิรภัย ถ้าหากว่าบิดกุญแจสตาร์ตแล้วไฟติดก็แสดงว่าถุงลมยังทำงานได้ปกติ แต่ถ้าหลังจากสตาร์ตแล้วไฟถุงลมยังไม่ยอมดับ
นั่นก็แสดงว่าถุงลมทำงานไม่ปกติ ควรจะส่งศูนย์บริการ
6. สัญญาณเตือนรูปกาน้ำมันเครื่องขึ้นโชว์ สตาร์ตรถแล้วไฟเตือนไม่ดับ หรือดับๆ ติดๆ นั่น ก็อาจจะเป็นเพราะว่าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับต่ำกว่าที่
กำหนดไว้เอามากๆ ให้ลองเติมน้ำมันเครื่องลงในช่องเติมน้ำมันเครื่อง โดยให้เติมลงไปประมาณครึ่งลิตรก็พอ เพื่อดูว่าไฟเตือนนั้นดับลงหรือไม่
ถ้าไฟดับนั่นก็คือน้ำมันเครื่องขาด ตรวจเช็กเมื่อดับเครื่องยนต์ได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมงไปแล้ว แต่ถ้าให้ง่ายควรตรวจเช็กตอนเช้าก่อนที่จะสตาร์ตเครื่องยนต์
แต่ในอีกกรณีไฟเตือนน้ำมันเครื่องขึ้น เช็กน้ำมันเครื่องดูแล้วก็ไม่ขาด แสดงว่าแรงดันน้ำมันเครื่องอาจจะตกหรือไม่มีแรงดัน เพื่อไปหล่อลื่นในส่วนต่างๆ
สรุปก็คือปั๊มน้ำมันเครื่องน่าจะมีปัญหา
7. สัญญาณเตือนระดับน้ำในหม้อน้ำแห้ง ปกติแล้วถ้าไม่มีการรั่วซึมของน้ำจากการแตกร้าวจากท่อน้ำหรือจากหม้อน้ำก็ตาม น้ำจะไม่ลดลงโดยง่าย
แต่ถ้าไม่ได้ตรวจเช็กนานๆ ระดับน้ำในหม้อน้ำลดลง วิธีที่จะรู้ได้ว่ารั่วซึมจากที่ใด ลองเติมน้ำเพิ่มแล้วก้มดูที่พื้นว่ามีน้ำหยดลงมาจากบริเวณไหนหรือไม่
8. สัญญาณไฟเตือนนอกจากจะเป็นการเตือนอุปกรณ์มาตรฐานแล้ว ในรถรุ่นใหม่ๆ ยังมีระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยต่างๆ อีกด้วย
สัญญาณเหล่านี้จะโชว์ก็ต่อเมื่อมันทำงานเท่านั้น เช่น ระบบการควบคุมช่วงล่าง VSC ป้องกันรถลื่นไถล เทคโนโลยี VSC (Vehicle Stability Control)
จึงควรศึกษาคู่มือการใช้รถยนต์ เพื่อประโยชน์ในการใช้รถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ